‘‘อหํ ปุเร สํยมิสฺสํ, นาทาสิํ พหุเก ธเน;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;
สฺวาหํ ปจฺฉานุตปฺปามิ, อตฺตกมฺมผลูปโคฯ
[239]
[เป. ว. 69] ‘‘อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ, กาลํกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ, นิรยํ ปปติสฺสหํฯ
[240]
[เป. ว. 70] ‘‘จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํฯ
[241]
[เป. ว. 71] ‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺฐติ สพฺพทาฯ
[242]
[เป. ว. 72] ‘‘ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ, ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลํ ปาปสฺส กมฺมสฺส, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํฯ
[243]
‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโหฯ
[244]
‘‘สเจ ตํ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ [ปมุตฺตตฺถิ (สพฺพตฺถ) อุทา. 44 ปสฺสิตพฺพํ], อุปฺปจฺจาปิ [อุเปจฺจาปิ (สฺยา. ก.)] ปลายตํฯ
[245]
‘‘มตฺเตยฺยา โหถ เปตฺเตยฺยา, กุเล เชฏฺฐาปจายิกา;
สามญฺญา โหถ พฺรหฺมญฺญา, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสถา’’ติฯ
ธนปาลเสฏฺฐิเปตวตฺถุ สตฺตมํฯ
8. จูฬเสฏฺฐิเปตวตฺถุ
[246]
‘‘นคฺโค กิโส ปพฺพชิโตสิ ภนฺเต, รตฺติํ กุหิํ คจฺฉสิ กิสฺส เหตุ;
อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ, สพฺเพน วิตฺตํ ปฏิปาทเย ตุว’’นฺติฯ
[247]
‘‘พาราณสี นครํ ทูรฆุฏฺฐํ, ตตฺถาหํ คหปติ อฑฺฒโก อหุ ทีโน;
อทาตา เคธิตมโน อามิสสฺมิํ, ทุสฺสีลฺเยน ยมวิสยมฺหิ ปตฺโตฯ
[248]
‘‘โส สูจิกาย กิลมิโต เตหิ,
เตเนว ญาตีสุ ยามิ อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ;
อทานสีลา น จ สทฺทหนฺติ,
ทานผลํ โหติ ปรมฺหิ โลเกฯ
[249]
‘‘ธีตา จ มยฺหํ ลปเต อภิกฺขณํ, ‘ทสฺสามิ ทานํ ปิตูนํ ปิตามหานํ’;
ตมุปกฺขฏํ ปริวิสยนฺติ พฺราหฺมณา [พฺราหฺมเณ (สี.)], ‘ยามิ อหํ อนฺธกวินฺทํ โภตฺตุ’’’นฺติฯ
[250]
ตมโวจ ราชา ‘‘อนุภวิยาน ตมฺปิ,
เอยฺยาสิ ขิปฺปํ อหมปิ กสฺสํ ปูชํ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,
สทฺธายิตํ เหตุวโจ สุโณมา’’ติฯ
[251]
‘ตถา’ติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ, ภุญฺชิํสุ ภตฺตํ น จ ทกฺขิณารหา;
ปจฺจาคมิ ราชคหํ ปุนาปรํ, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺสฯ
[252]
ทิสฺวาน เปตํ ปุนเทว อาคตํ, ราชา อโวจ ‘‘อหมปิ กิํ ททามิ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ, เยน ตุวํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติฯ
[253]
‘‘พุทฺธญฺจ สงฺฆํ ปริวิสิยาน ราช, อนฺเนน ปาเนน จ จีวเรน;
ตํ ทกฺขิณํ อาทิส เม หิตาย, เอวํ อหํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา’’ติฯ
[254]
ตโต จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท [ตาวเทว (สฺยา.), ตเทว (ก.)], ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา [อตุลญฺจ ทตฺวา (สฺยา. ก.)] สงฺเฆ;
อาโรเจสิ ปกตํ [อาโรจยี ปกติํ (สี. สฺยา.)] ตถาคตสฺส, ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถฯ
[255]
โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;
‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา [มยฺหมิทฺธิสมสทิสา (สี. สฺยา.)] มานุสาฯ
[256]
‘‘ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ, ตยานุทิฏฺฐํ อตุลํ ทตฺวา สงฺเฆ;
สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ, ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา’’ติฯ
จูฬเสฏฺฐิเปตวตฺถุ อฏฺฐมํ นิฏฺฐิตํฯ
ภาณวารํ ปฐมํ นิฏฺฐิตํฯ
9. องฺกุรเปตวตฺถุ
[257]
‘‘ยสฺส อตฺถาย คจฺฉาม, กมฺโพชํ ธนหารกา;
อยํ กามทโท ยกฺโข, อิมํ ยกฺขํ นยามเสฯ
[258]
‘‘อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน, สาธุเกน ปสยฺห วา;
ยานํ อาโรปยิตฺวาน, ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารก’’นฺติฯ
[259]
[ชา. 1.10.151; 1.14.196; 2.18.153; 2.22.10] ‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติฯ
[260]
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติฯ
[261]